Tuesday, January 3, 2017

 จะถ่ายหาอะไร !! อ่านกี่ทีก็เศร้าใจ หนุ่มฮีโร่ ทำได้แค่นี้ เมื่อทุกคนเอาแต่ยืนถ่ายคลิป เขาทำแบบนี้จนรอด 2 คน จริงหรอเนี้ย..!?

loading...


จากกรณีที่เกิดโศกนาฏกรรม เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 ม.ค. 60 ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ไก่เรารักกู้ภัยสว่างทีม กู้ภัยสี่ห้าสามสว่างประทีป”

ได้เผยคลิปเหตุการณ์ เกิดอุบัติเหตุหมู่สยองส่งท้ายปีใหม่ที่ชลบุรี รถตู้สาย กทม.-จันทบุรี คาดคนขับหลับในข้ามเลนพุ่งชนประสานงา รถกระบะ ย่างสดเสียชีวิต 23 ศพ ที่เกิดเหตุบนถนนสาย 344 ม.1 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ฝั่งขาเข้าระยองเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบ้านบึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง รุดไปที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังรุกโหมรถตู้โดยสาร สายกทม.-จันทบุรี หมายเลขทะเบียน 15-1352 กทม. ชนอัดกับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒ 2483 กทม. สภาพรถทั้งสองคันพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดับไฟและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์และได้เข้าไปช่วยเหลือแต่ทำได้แค่ถามคนเจ็บว่าเป็นไงบ้างก่อนไฟคลอกตาย โดยในโพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระบุข้อความว่า…“ผมลงไปช่วยคนเจ็บ วิ่งไปขอสลิง กับเชือก รถคนที่จอดดู ไม่มีคนสนใจ แม่งถ่ายแต่รูป ถ่ายแต่คลิป ถ้าช่วยกันลากรถกระบะออกห่างจากรถตู้ คนที่ติดอยู่ในกระบะคงรอด ผมทำได้แค่ถามคนเจ็บว่าเป็นไงบ้างก่อนไฟคลอกตาย เสียใจที่ช่วยไม่ได้ครับ สายตาของผู้หญิงฝั่งข้างคนขับที่มองขอให้ช่วยยังติดตาผมอยู่เลย ผมต้องยืนฟังเสียงผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากไฟคลอก ทำอะไรไม่ได้นอกจากทนมอง และทนฟัง ผมต้องขอบคุณ พี่กระบะดีแม็กสีดำที่ถอยรถมาช่วยลากแต่เบลล์ขาด ขอบคุณพี่ผมยาวเสื้อลายทหารและลุงเสื้อสีกรมท่าที่ช่วยงัดประตูรถ ขอบคุณพี่เสื้อดำที่อุ้มผู้หญิงที่รอดชีวิตออกจากซากรถ”

และจากโพสต์ดังกล่าวได้ทำเกิดกระแสการแสดงความเห็นผ่านโลกโซเชีบลอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการแสดงอารมณ์เห็นใจผู้เคราะห์ร้าย แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน เพราะต่างคนต่างยืนดูพร้อมถ่ายภาพ ถ่ายคลิปเพื่อนำแชร์ในโลกโซเชียล แต่บางส่วนก็เข้าใจในสถานการณ์ว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์

ขณะที่วัดธรรมมาศน์นักบุญโปรแตส บ้านท่าแฉลบ อำเภอเมืองจันทบุรี รถของอาสาสมัครสมาคมส่วางกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรี ได้เคลื่อนศพของนายกันตินันท์ ไทยตรง หรือน้องคิว อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลเยาวชน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้ชนประสานงากับรถกระบะที่จังหวัดชลบุรี กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดจังหวัดจันทบุรีท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ พี่ น้อง คนรู้จัก เพื่อนอดีตนักเรียน และเพื่อนนักกีฬาบาสเก็ตบอล โดยทางญาติซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ได้กำหนดตั้งศพประกอบพิธีมิสซาทุกคืนจนถึงคืนวันที่ 7 มกราคม 2560

โอกาสนี้ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี มอบหมายให้นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนำพวงหรีดไปร่วมแสดงความไว้อาลัย งานศพและให้กำลังใจพ่อ – แม่ และญาติของผู้เสียชีวิตที่ยังโศกเศร้า ทำใจไม่ได้กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นายกันตินันท์ ไทยตรง หรือน้องคิว เป็นอดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลเยาวชน จังหวัดจันทบุรีและกำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวคัดเลือกเป็นตัวแทนนักกีฬาบาสเก็ตบอลจังหวัดรุ่นประชาชนทั่วไป มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และสร้างชื่อเสียงมากมาย ขณะที่การศึกษาเรียนจบปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังปัจจุบันทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ของบริษัทฮิตาชิ สำนักงานใหญ่

ด้านนายเกษมศันต์ และนางเกศรา ไทยตรง บิดาและ มารดาของน้องคิวผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตาต้องการที่จะฟ้องร้องเป็นคดีตัวอย่างแก่บริษัทรถตู้ร่วมบริการที่ทำให้เกิดเหตุการสูญเสียครั้งนี้ที่ต้องเสียลูกชายที่เป็นกำลังหลักของครอบครัวยากที่จะหาสิ่งใดมาทดแทน บริษัทต้องออกมารับผิดชอบในการสูญเสียครั้งนี้มากกว่าการให้ตัวแทนบริษัทประกันเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่ทางจังหวัดพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานงานตามความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบ

ส่วนอีก 2 ศพที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้นำกลับบ้านที่จังหวัดจันทบุรีโดยแยกย้ายไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองบอน ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม ที่เหลือยังคงรอตรวจ DNA พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและในวันพรุ่งนี้จะมีการเคลื่อนศพผู้เสียชีวิตอีก 6 ราย กลับจังหวัดจันทบุรี หนึ่งในนั้นคือนายพรหมพรต กอศิริวรานนท์ หรือ น้องกันต์ นักศึกษาแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 2 ที่ญาติกำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าคลองกุ้ง อ.เมือง จันทบุรี อย่างไรก็ตาม ยังคงมีศพของผู้โดยสารรถตู้อีก 3 ราย เป็นเพศหญิงที่ไม่พบหลักฐาน และไม่มีญาติมาแสดงตน ทางจังหวัดจันทบุรีได้ประกาศให้ญาติหรือผู้ที่สงสัยติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดหรือยืนยันเอกลักษณ์บุคคลผ่านทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิงที่ลุกไหม้รถตู้อยู่นั้น ได้เข้าไปช่วยดึงร่างเด็กชายวัย 3 ขวบออกมา จากซากรถตู้ แต่ต้องสุดสลดเพราะหนูน้อยสิ้นใจตายไปก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 ศพแล้วหลังจากที่ควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิตรวจสอบภายในรถตู้โดยสารพบว่า ผู้โดยสารภายในรถเสียชีวิตอยู่ในสภาพถูก

ไฟไหม้เกรียมอยู่บริเวณที่นั่งของตัวเองทั้งหมด จำนวน 14 ราย แยกเป็นผู้ชาย 5 ราย ผู้หญิง 9 ราย รอด 1 ราย ส่วนรถกระบะ
สภาพหน้ารถพังยับเยิน มีผู้นั่งมาทั้งหมด 12 คน เสียชีวิตทันที 11 คน แยกเป็นชาย 5 คน ผู้หญิง 6 คน มีผู้หญิงรอดชีวิต 1 ราย ยอด

รวมผู้เสียขีวิตทั้งหมด 25 คน เป็นผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 15 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้รอดชีวิตมี 2 รายคือ นายธงชัย ตั้งวงษ์พิทธิกุล อายุ 20 ปี ซึ่งนั่งมาในรถตู้ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ส่วนอีกรายคือ นางปราณี บุญโทน อายุ 20 ปี นั่งมาในรถกระบะ ซึ่งกระเด็นออกจากรถช่วงที่เกิดชนกัน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทั้งคู่

จากการสอบถามนายธงชัย ผู้โดยสารที่นั่งมากับรถตู้โดยสาร เล่าว่า ตนขึ้นรถมาจากจันทบุรี เพื่อจะเข้ากรุงเทพมหานคร โดยนั่งหลังติดกับกระจกรถ ในช่วงนั้นผู้โดนสารจำนวน 15 คนกำลังหลับสนิท ส่วนตนเองก็นั่งหลับๆตื่นๆ พอรถมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆรถก็เสียหลักเลี้ยวกระทันหันข้ามเลน อีกไม่นานก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ได้กลิ่นแก๊ส ตนเองยังมีสติ บังเอิญกระจกด้านข้างแตก จึงใช้เท้าถีบกระจกพยายามหนีออกมานอกรถอย่างรวดเร็ว ส่วนคนอื่นไม่รู้สึกตัวถูกไฟคลอกเสียชีวิตจนหมด ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บที่หัว เข่า แขน ถูกกระจกบาด และที่ผมถูกไฟไหม้เล็กน้อย ซึ่งรอดตายมาได้แบบหวุดหวิด

ขณะที่นางปราณี ผู้รอดชีวิตอีกคนจากรถกระบะยังอยู่ในอาการช็อค เล่าว่า ตนเองกับครอบครัวและญาติๆไปไหว้หลวงพ่อโสธร ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และกำลังเดินทางไปบ้านสามีที่จังหวัดจันทบุรี มีเด็กมาด้วย 2 คน ตนเองนั่งหลังกระบะ ระหว่างทางทุกคนก็หลับๆ ตื่นๆ อยู่ๆรถตู้โดยสารพุ่งข้ามเลนมาชนเข้าอย่างแรงและเกิดไฟไหม้ลามมาติดรถกระบะ ทำให้ตนเองกระเด็นตกลงมา แต่ไม่ได้รับ บาดเจ็บแต่อย่างใด

........................
ขอบคุณที่มาจาก: siamdrama

About Author

Naveed Iqbal

Naveed is freelance web designer. He loves to play with javaScript and other programming codes.


loading...